จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2554

กลับบ้านเรา"ผู้สูงอายุ"รออยู่

       

                            
อ.ปิยพรและอ.ภีมของพวกเราได้ให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าว
อ.บรรยายในหัวข้อดังกล่าวอย่างสนุกสนาน













การได้เข้ารับฟังสัมมนาในเรื่อง "การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ"นั้น ทำให้คิดได้ว่า ต่อไป99.99%ของคนไทยต้องเต็มไปด้วย "ผู้สูงอายุ"  หรือจะเกิดปรากฏการณ์ผู้สูงอายุครองเมืองกันหรือนี้ แต่การทำตัวอย่างไรต่างหาก และเตรียมความพร้อมอย่างไรที่จะไปเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ นี้สิที่สำคัญ เพราะมีแต่คนคิดว่าพอเข้าสูงวัยผู้สูงอายุแล้วนั้นมักโดนลูกหลานทิ้งซึ่งนั้นคือสิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมที่จะอยู่อย่างไรให้มีคุณค่าอีกทั้งต้องเตรีมความพร้อม ในหลายๆด้าน เช่น ด้านอาหารการกินและการดูแลเอาใจใส่ซึ่งนับว่าสำคัญ "ประเพณี"ก็คือส่วนหนึ่งที่สามารถหล่อหลอมให้คอบครัวในแต่ละทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยทำงานหรือวัยผู้สูงอายุได้พบปะสังสรรค์ต่อกัน เฉกเช่นโฆษณาหลากหลายตัวที่ได้บอกกล่าวถึงนั้นคือ การรณรงค์การกลับบ้าน ในทุกช่วงเทศกาล แต่ทุกคนนั้นมักจะลืมถึงพระที่บ้าน หรือวัยผู้สูงอายุเนื่องจากคิดว่าพาไปเที่ยวแล้วไม่สนุก แต่เมื่อลองคิดกลับกันว่าในวัยเรายังเป็นเด็ก พวกท่านหรือผู้สูงอายุในปัจจุบันนั้นกลับไม่คิดถึงเลยว่าถ้าพาพวกเราในวัยเด็กนั้นไปจะง้อแงและเป็นภาระ แต่เรากลับคิด เมื่อยังมีแรงและกำลังพอ จงพาท่านไปเที่ยวและกลับบ้านเราน่ะ  "ผู้สูงอายุ" รออยู่

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประเพณี ถิ่นอีสาน @สุรินทร์



ฟัวการบรรยายที่บ้านทับไทย คุณกันยา








พี่แมค อธิบายการทำนาโยน





ผ้าไหมบ้านท่าสว่าง สวนสมชื่อ
      











บ้านท่าสว่าง ผ้าไหมโบราณที่สวยสมราคา
นานทีปีหนจะได้ล่องถิ่นอีสานบ้านเฮาบ้าง แต่ในการไปครั้งนี้ไม่ไปธรรมดาเจ้าค่ะ  แต่พวกเราชาวพัฒนาชุมชนปี3ต้องไปเจอะเจอแบบกระทบไหล่กับ ปราชญ์ชาวบ้านระดับประเทศ โอย!!!!!เพียงแค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วววว   เฉกเช่น พ่อคำเดื่อง ภาษี  หรือจะเป็นคุณกันยา อ่อนศรี แถมมีได้โอกาสดีดีที่ได้เจอกับพ่อสำฤทธิ์ อีกด้วย ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะอยู่ไม่ครบโปรแกรมทัวร์สุดแสนหรรษานี้แต่ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากกันเลยทีเดียว
        ถึงแม้ว่าค่านิยมจะทำให้ประเพณีและวัฒนธรรมของหมู่เฮาชาวอีสานได้ลดน้อยถอยลงไปแต่ประเพณีหนึ่งที่ค่านิยมจากฝรั่งมังค่าไม่สามารถทำลายลงไปได้เลยนั้นคือ ข้าว
        ข้าวของชาวอีสาน โดยเฉพาะข้าวของสุรินทร์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เหนียวนุ่มหอม ทำให้กินได้อย่างเพลิดเพลินโดยเฉพาะถ้ามีน้ำพริกผักสดกินควบคู่กันไปก็จะยิ่งอร่อยยิ่งขึ้น อีกทั้งถ้าไปเยี่ยนถิ่นอีสานแล้วต้องตักข้าวแต่พอทานถ้ากินเหลือทิ้งเหลือขว้างละก็เรียกได้ว่าเป็นการไม่ให้เกียรติ์และดูถูกชาวอีสานเป็นอย่างแร๊งงงง!!!!    อีกหนึ่งของดีของชาวอีสานคือปัญหา แต่ปัญหาและอุปสรรค์ที่ว่านี้คือสิ่งที่ชาวอีสานได้ดิ้นรนต่อสู้ด้วยพลังของพวกเขาเองทำให้แถบอีสานมีปราชญ์ชาวบ้านมากมาย เฉกเช่น พ่อคำเดื่อง ที่ต่อสู้กับดินและปัญหาน้ำท่วมในถิ่นทำกิน พ่อสำฤทธิ์ ที่ต่อสู้กับปัญหาข้าวและพันธุ์ข้าวว่าอย่างไรให้ได้ข้าวพันธุ์ดีทนต่อถิ่นอีสานหรือจะคุณกันยา ที่ต่อสู้เรื่องข้าวอินทรีย์ และจากการไปศึกษาดูงานของปราชญ์ชาวบ้านทุกท่าน เห็นได้ว่าวิถีชนบทนั้นมีความอ่อนน้อมถ่อมตนสูงไม่โอ้อวด ทำให้การไปดูงานครั้งนี้ได้เรียนรู้ทั้งประเพณีของชาวอีสานและได้ซึมซับความรู้ที่ได้จากปราชญ์ชาวบ้านทั้งหลายท่านทำให้ประทับใจอย่างมาก สุดท้ายของทริปนี้ต้องขอขอบพระคุณ อ.วันทนีย์ ที่ดูแลตั้งแต่ออกจากรั้วจันทรเกษม อ.พัชรีและอ.กฤษณาที่ดูแลตลอดการเดินทางไปสุรินทร์ ขอขอบพระคุณจากใจจริงๆค่ะ


ตลาดเขียว


พ่อคำเดื่อง ให้ความรู้กับพวกเรานักศึกษา



ของกิน อร่อยๆที่ตลาดเขียว


วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

chll chll in love@BangRak

       ความรักนั้น มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะต่างเชื้อชาติหรือศาสนา ต่างประเพณีและวัฒนธรรม แต่งวันนี้ขอนำเสนอความรักในรูปแบบของเขตที่สุดฮิปที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเขตที่ขึ้นชื่อว่านิยมจดทะเบีนสมรสมากที่สุดเขตหนึ่ง นั้นคือเขตบางรัก นั้นเอง  เขตบางรักประกอบด้วยตรอกซอกซอยที่เป็นแหล่งสุดนิยมแหล่งท่องเที่ยวแหล่งอารยะธรรมและประเพณีที่หลากหลายรวมอยู่ในถนนสายดังกล่าว
เฉกเช่น ถนนสีลม ที่มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าถึงถนนสีลมแล้วนั้นคือกังหันลมอันยักษ์ที่ตั้งอยู่ตรงสี่แยกบางรัก ถ้าไม่รับนักเราจะเห็นได้ถึงประเพณีที่หลากหลายตามตรอกซอกซอยตลอดของเขตบางรัก เช่น ตรงซอยวัดแขกที่มีประเพณีที่เด่นชัดของชาวแขกที่มีการนับถือศาสนาฮินดูอย่างเด่นชัด นอกจากชาวแขกแล้วถนนสีลมยังขึ้นชื่อว่าเป็นถนนที่มีฝรั่งอยู่อย่างคับคั่ง วัฒนธรรมและประเพณีที่หลากหลาย เห็นได้จากร้านอาหารฝรั่งที่มีอยู่อย่างคับคั่งอีกทั้งเขตบางรักยังเป็นแหล่งผสมผสานของประเพณีไทย แขก ฝรั่ง จีน ได้อย่างลงตัว

         แต่ไม่ว่าจะเป็นเขตไหนๆในชุมชนเมือง ก็ยังคงมีกลิ่นอายของอารยะธรรมในเขตชุมชนนั้น ก็ยังคงมีประเพณีที่แฝงตัวอยุ่ในชุมชนนั้นอย่างไม่เสื่อมคลาย แต่ถ้าจะไปเที่ยวแบบ ชิลชิล ละก็ ขอแนะนำให้ลองไปchll chll in love@BangRak ได้ตลอดเลย ไม่ว่าจะไปชิลตอนกลางวันหรือกลางคืน กลิ่นอายของประเพณีก็ยังคงอยู่ในเขตบางรักไม่เลื่อมคลายอย่างแน่นอน
เดินไปที่เจริญกรุง53
มีผู้ติดตามไปด้วยเพื่อเก็บภาพให้เรา

ถึงแล้ววัดยานนาวา
ปีไหนปีชง นาลองดูได้น่ะค่ะ

                                                                   ซาลาเปาลูกท้อ
                                             โคมแดงแสดงได้ถึงว่าเทศกาลตรุสจีนมาแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าความรัก

 


     เคยสงสัยกันไมว่า เวลาที่ผู้คนมากมายหลากหลายพื้นเพมาอาศัยอยู่ร่วมกันทำไมพวกเขาเหล่านั้นถึงรักกันได้ เพราะอะไรรู้ไมค่ะ เพราะสิ่งนั้นคือ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าความรัก
     ทำไมถึงต้องเป็นสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าความรักหรือ เพียงเพราะสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าประเพณีได้ทำหน้าที่สอดประสานให้ก่อเกิดความรักและความสามัคคีในชุมชนได้ ไม่ว่าจะประเพณีไหนก็ตามเป้าหมายหลักส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดประเพณีได้นั้นคือ การทำให้มีการร่วมประสานงานกันผู้คนที่ไม่เคยหรือไม่คุ้นเคยกันก็จะสามารถพบปะพูดคุยกันได้โดยไม่เก้อเขินซึ่งกันและกัน เรียกได้ว่าสิ่งเล็กที่เรียกว่าประเพณีนั้นนอกจากจะแสดงถึง วิถีชีวิตความเป็นอยู่ เอกลักษณ์ วัฒนธรรม และความเชื่อต่างๆแล้วนั้น ยังได้ทำหน้าที่เป็น สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักได้ดีอีกด้วย

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

ประกาศหาคนรำสวย!!!

เจ้าข้าเอย!
กำลังรับสมัครนางรำในเทศกาลต่างๆ
ตำแหน่งงาน: นางรำ
คุณสมบัติ: ขยัน รำสวย ร่าเริงแจ่มใส เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดีและมีความคิดสร้างสรรค์ในการคิดท่าทางฟ้อนรำต่างๆ
เพศ :หญิงและสาวประเภทสองไม่จำกัดอายุ
สถานที่ทำงาน: ฟ้อนรำตามประเพณีท้องถิ่นต่างๆ4ภาค
สวัสดิการ:กินฟรี อยู่ฟรี รายได้ไม่ต่ำละ10,000บาทต่อเดือน
การศึกษา: ไม่จำกัดวุฒิการศึกษาเพียงขอให้มีใจรักก็เพียงพอ



365 จังหวะ ประเพณีที่ไม่มีวันหลับไหล


     ถ้าจะให้กล่าวถึงประเพณีแล้วนั้นเพียงแค่ในประเทศไทยก็มีอย่างล้นหลามแล้วแต่ถ้าให้จำแนกอย่าง เบา เบาในแต่ละเดือนแล้วนั้นเรียกได้ว่า มีความสนุกสนานได้ไม่เว้นแม้แต่ละวัน 365วัน 365 จังหวะไม่ซ้ำกันแต่ละเดือนเลยที่เดียว เริ่มจากเดือนแรกอย่างมกราคมที่คึกคักกันตั้งแต่ต้นปีอย่างเทศกาลส่งความสุขอย่างปีใหม่ เรียกได้ว่าเป็นวันครอบครัวอินเตอร์อีกวันหนึ่งที่ทุกครอบครัวมักส่งความสุขกันในวันดังกล่าว กิจกรรมที่ทำอย่างล้นหลามในเมืองไทยนั้นคือการ ทำบุญ9วัดในบริเวณรอบๆเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในวันดี คือส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ดังนั้นในวันดีปีใหม่จึงมักจะมีศาสนิกชนไป ไหว้พระขอพร 9 พระอารามหลวงทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการสงบสุขและขอพรปีใหม่อย่างเบิกบานอีกด้วย
1. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
          คติ : เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรีที่ดี
          เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่
          ดอกไม้พวงมาลัย
 2. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
          คติ : มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง
          เครื่องสักการะสำหรับพระประธานในโบสถ์ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม   
          ดอกบัว 1 ดอก
          เครื่องสักการะสำหรับรูปเคารพสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท :
          ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก
 3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
          คติ : ร่มเย็นเป็นสุข
          เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียนคู่
          ทองคำเปลว 11 แผ่น    
4. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
          คติ : เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย
          เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกไม้
5. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
          คติ : ชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ
          เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว
6. วัดสุทัศเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
          คติ : วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่คนทั่วไป
          เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม
7. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
          คติ : ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน
          เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนคู่
8. วัดบวรนิเวศวิหาร
          คติ : พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต
          เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก
9. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
          คติ : เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล
          เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก
     ไม่ว่าจะเดินทางกันครบหรือไม่แต่การเดินทางไปสักการะทั้ง9วัดได้ก็ยิ่งเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัวหรือการเดินทางไปสักการะหรือทำบุญตามท้องถิ่นต่างๆก็ย่อมเป็นสิริมงคลอย่างแน่นอนและไม่ว่าอีกกี่ประเพณีนั้นก็ยังคงแสดงถึงความรักและความสามัคีและการให้ความสำคัญแก่ประเพณีที่มีมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษสืบต่อไป

365 จังหวะ ประเพณีที่ไม่มีวันหลับไหล


     ถ้าจะให้กล่าวถึงประเพณีแล้วนั้นเพียงแค่ในประเทศไทยก็มีอย่างล้นหลามแล้วแต่ถ้าให้จำแนกอย่าง เบา เบาในแต่ละเดือนแล้วนั้นเรียกได้ว่า มีความสนุกสนานได้ไม่เว้นแม้แต่ละวัน 365วัน 365 จังหวะไม่ซ้ำกันแต่ละเดือนเลยที่เดียว เริ่มจากเดือนแรกอย่างมกราคมที่คึกคักกันตั้งแต่ต้นปีอย่างเทศกาลส่งความสุขอย่างปีใหม่ เรียกได้ว่าเป็นวันครอบครัวอินเตอร์อีกวันหนึ่งที่ทุกครอบครัวมักส่งความสุขกันในวันดังกล่าว กิจกรรมที่ทำอย่างล้นหลามในเมืองไทยนั้นคือการ ทำบุญ9วัดในบริเวณรอบๆเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในวันดี คือส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ดังนั้นในวันดีปีใหม่จึงมักจะมีศาสนิกชนไป ไหว้พระขอพร 9 พระอารามหลวงทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการสงบสุขและขอพรปีใหม่อย่างเบิกบานอีกด้วย
1. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
          คติ : เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรีที่ดี
          เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่ 
          ดอกไม้พวงมาลัย
 2. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
          คติ : มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง
          เครื่องสักการะสำหรับพระประธานในโบสถ์ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม   
          ดอกบัว 1 ดอก
          เครื่องสักการะสำหรับรูปเคารพสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท :
          ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก
 3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
          คติ : ร่มเย็นเป็นสุข
          เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียนคู่
          ทองคำเปลว 11 แผ่น    
4. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
          คติ : เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย
          เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกไม้


5. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
          คติ : ชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ
          เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว
6. วัดสุทัศเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
          คติ : วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่คนทั่วไป
          เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม
7. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
          คติ : ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน
          เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนคู่
8. วัดบวรนิเวศวิหาร
          คติ : พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต
          เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก
9. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
          คติ : เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล
          เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก
     ไม่ว่าจะเดินทางกันครบหรือไม่แต่การเดินทางไปสักการะทั้ง9วัดได้ก็ยิ่งเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัวหรือการเดินทางไปสักการะหรือทำบุญตามท้องถิ่นต่างๆก็ย่อมเป็นสิริมงคลอย่างแน่นอนแต่ไม่ว่าจะผ่านพ้นไปกี่เทศกาลแต่สำหรับชุมชนแล้วนั้นการให้ความสำคัญกับประเพณีล้วนแต่มีความสำคัญยิ่งเห็นได้ว่าภายในทุกเดือนจะมีประเพณีที่มีความเป็นเฉพาะตัวอยู่ทุก365วัน มี365จังหวะที่ทำให้เกิดความสามัคคีและการร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนทุกเพศและทุกวัยนั้นเอง

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

Port Folio
นางสาว กวิสรา บัวบูรณ์   
วันเกิด 30 มิถุนายน 2533   
กรุ๊ปเลือด O
ที่อยู่ 63/2388 หมู่7  แขวง/เขต สะพานสูง กรุงเทพ 10240
จำนวนพี่น้อง 2คน  1.นางสาว กวิสรา บัวบูรณ์ 2.นาย กรวิชญ์ บัวบูรณ์
ชื่อเล่น ลูกกอล์ฟ     ปัจจุบันอายุ 20 ปี
อาหารที่ชอบ   อาหารประเภทเส้นๆไม่ว่าจะเป็นไทยหรือเทศ
สีที่ชอบ      สีส้ม สีชมพู สีเทา
ภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ   ยัยตัวร้ายกับนายเซ่อซ่า
งานอดิเรก  วาดรูป เล่นInternet
คติประจำใจ    ไม่ว่าจะมีคนพูดอย่างไรว่า ข้าพเจ้าล้มเหลว1000ครั้งแต่สำหรับข้าพเจ้า ถือว่าประสบความสำเร็จและก้าวหน้ามากกว่าคนอื่นๆแล้ว1000ครั้ง
ประวัติการศึกษา
อนุบาล1-3/ประถมศึกษาปีที่1-6 โรงเรียนเบญจมินทร์
มัธยมศึกษา1-6  โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า สายวิทย์-สถาปัตย์
อุดมศึกษา  ปัจจุบัน สาขาการพัมนาชุมชน ปี3 มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม
ประวัติการทำงาน
งานพิเศษ       2549-ปัจจุบัน รับจ้างออกแบบเว๊ปไซด์
งานPart-time  2551-2552 งานออกแบบ,พิธีกร  บริษัท โมเทคเฟอร์นิเจอร์
                  2552-ปัจจุบัน พริตตี๊เชียรสินค้า ตามห้างสรรพสินค้า
ความสามารถพิเศษ  
ตีขิม ,ขับรถยนต์ ,วาดรูป,ออกแบบเว๊ปไซด์ ,พิธีกร ,พริตตี๊
ความคาดหวังหรือเป้าหมายในอนาคต  
สำหรับเป้าหมายในอนาคตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามุ่งหวังที่จะนำวิชาความรุ้ที่ได้ร่ำเรียนมาใช้ให้เกิดประโยชนืสูงสุด โดยการรับใช้ประเทศ ข้าพเจ้าจะสอบเข้าราชการและนำความรู้กลับไปพัฒนาประเทศไทยอย่างสุดความสามารถ